sea

sea

Friday, December 25, 2015

แนะนำหนังน่าดูปี 2015 ที่พลาดแล้วจะเสียใจ




1.Avengers : Age of Ultron




 มหากาพย์ภาคต่อของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องยิ่งใหญ่ตลอดกาล เมื่อโทนี่ สตาร์คต้องการที่จะปัดฝุ่นโครงการเพื่อสันติสุขของชาวโลกขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดไว้ และเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้ทรงพลังอย่าง ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา, ธอร์, ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์, แบล็ค วิโดว์ และ ฮอว์คอาย ต้องเผชิญกับบททดสอบอันยิ่งใหญ่โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อ "อัลตรอน" สุดยอดวายร้ายได้ถือกำเนิด มีเพียงเหล่าอเวนเจอร์สเท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งเขาและแผนการอันชั่วร้ายของเขาได้ ความวิตกกังวลของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ยอดนักสู้และการกระทำที่ไม่คาดคิดได้นำไปสู่มหากาพย์การผจญภัยระดับโลกที่ไม่มีใครเหมือน


2.inside out




 การเติบโตอาจไม่ใช่เรื่องง่าย และนั่นก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ "ไรลีย์" ที่เติบโตขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลาง เมื่อพ่อของเธอต้องเริ่มงานใหม่ในซานฟรานซิสโก เช่นเดียวกับเราทุกคน ไรลีย์ถูกชักนำด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ของเธอ ความสุข (เอมี่ โพเลอร์), ความกลัว (บิล เฮเดอร์), ความโกรธ (ลิววิส แบล็ค), ความน่ารังเกียจ (มินดี้ คาร์ลลิ่ง) และความเศร้า (ฟิลลิส สมิธ) อารมณ์ทั้งหมดอาศัยอยู่ในศูนย์บัญชาการใหญ่ ศูนย์ควบคุมกลางภายในจิตใจของไรลีย์ ที่ซึ่งพวกเขาคอยช่วยแนะนำเธอให้ผ่านชีวิตในแต่ละวันได้ 

          เมื่อไรลีย์และเหล่าอารมณ์ของเธอต้องต่อสู้กับการปรับตัวเพื่อชีวิตใหม่ในซานฟรานซิสโก ความโกลาหลจึงเกิดขึ้นในศูนย์บัญชาการใหญ่ ถึงแม้ว่าความสุข อารมณ์หลัก และอารมณ์ที่สำคัญที่สุดของไรลีย์พยายามที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น ความขัดแย้งทางอารมณ์ก็ได้เกิดขึ้นต่อการที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหม่ บ้าน และโรงเรียนให้ดีที่สุดได้อย่างไร









3.THE MARTIAN




The Martian  คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างภารกิจเดินทางสู่ดาวอังคาร มนุษย์อวกาศ มาร์ แวทนีย์ ถูกคิดว่าเสียชีวิตหลังเกิดพายุรุนแรงและถูกทีมงานทิ้งไว้ แต่แวทนีย์กลับรอดชีวิตและพบว่าตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพังบนดวงดาวที่โหดร้าย เขามีเพียงเสบียงอันน้อยนิด แวทนีย์ต้องใช้ความฉลาด ไหวพริบ และความมุ่งมั่นเพื่อการอยู่รอดและหาทางส่งสัญญาณกลับมายังโลกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จากระยะทางที่ไกลนับหลายล้านไมล์ นาซ่าและทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติต่างพยายามนำ "เดอะ มาร์เชียน" กลับบ้าน ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมทีมของเขาได้ร่วมกันวางแผนว่าจะเป็นอย่างไรหากภารกิจการช่วยเหลือล้มเหลว จากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เห็นความกล้าหาญ ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้แวทนีย์กลับมาอย่างปลอดภัย





4.MOCKING JAY PART 2




เตรียมพบกับการเปิดฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่จะเปลี่ยนพาเน็มไปตลอดกาล ภาคจบของภาพยนตร์ที่ผู้ชมทั่วโลกเฝ้ารอคอยมากที่สุดแห่งปีที่สร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์ร้อนแรงที่สุดแห่งทศวรรษ!ถึงเวลาสาหรับศึกการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะกำหนดชะตาของผู้คนทั้งพาเน็ม เมื่อแคทนิส เอเวอร์ดีน(เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) ร่วมมือกับเขต 13 และรับข้อเสนอของประธานาธิบดีคอยน์(จูลีแอนน์ มัวร์) ที่จะรับหน้าที่ “ม็อกกิ้งเจย์” สัญลักษณ์และความหวังและผู้นำในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสโนว์ประกาศกร้าวที่จะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับกลุ่มกบฏอีกต่อไปและพร้อมที่จะตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน พวกเขาก็เช่นกันที่พร้อมจะต่อสู้ชนิดที่หากต้องมอดไหม้ อีกฝ่ายก็ต้องมอดไหม้ไปด้วย!





5.FAST AND FURIOUS 7


งราวใน Fast & Furious 7 เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งปีหลังจากที่ลูกทีมของดอม (ดีเซล) และไบรอัน (วอล์คเกอร์) ได้รับการอภัยโทษให้กลับอเมริกาได้ เราได้พบว่าพวกเขาได้ปรับตัวมาใช้ชีวิตถูกกฎหมาย แต่คำว่าบ้านของพวกเขากลับเป็นอะไรที่เกินจริง ดอมพยายามจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเล็ตตี้ (โรดริเกซ) ในขณะที่ไบรอันเองก็พยายามจะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตย่านชานเมืองกับไมอา (บรูว์สเตอร์) และลูกชายของพวกเขา ส่วนเทจ (บริดเจส) และโรมัน (กิ๊บสัน) ก็เฉลิมฉลองอิสรภาพของพวกเขาด้วยการใช้ชีวิตตามความฝันของหนุ่มเพลย์บอย

          อย่างไรก็ดี สิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คืออันตรายกำลังคืบคลานเข้าหาพวกเขาในร่างของมือสังหารภารกิจลับเลือดเย็นชาวอังกฤษ ที่มีบัญชีแค้นต้องสะสาง หลังจากที่เริ่มต้นศักราชแห่งความหวาดสะพรึงด้วยการสังหารโหดฮัน (ซุง คัง) ในโตเกียวและความพยายามลอบสังหารฮ็อบส์ (จอห์นสัน) ในแอลเอ เด็คการ์ด ชอว์ (สเตแธม) ก็เริ่มลงมือตามล่าผู้ที่กำจัดโอเวน (ลุค อีวานส์) น้องชายของเขา ระหว่างภารกิจสุดท้ายของพวกเขา

          ในตอนที่ชอว์ระเบิดบ้านทอร์เร็ตโต้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแหล่งพักพิงเพื่อให้ลูกทีมของเราได้ไขว่คว้าอิสรภาพกลับคืนมา ดอมก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง (รัสเซล) ความหวังหนึ่งเดียวของเหล่าตัวเอกของเราคือการนั่งหลังพวงมาลัยอีกครั้ง เพื่อหาโปรโตไทป์เครื่องมือติดตามอัจฉริยะของรัฐบาลสหรัฐฯ ให้พบ ผลตอบแทนคือพวกเขาจะสามารถใช้เครื่องมือติดตามที่ว่านี้ในการสืบร่องรอยของชอว์ ผู้เร้นกายราวกับวิญญาณ ก่อนที่เขาจะลงมือสังหารอีกครั้ง ในตอนนี้ที่พวกเขาสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าแต่ก่อน ใน The Fast & Furious 7 ดอม, ไบรอัน, ฮ็อบส์, เล็ตตี้, โรมัน, เทจและไมอา จะต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดในสถานที่ไกลโพ้นอย่างอาบู ดาบีและอาเซอร์ไบจัน... และสถานที่ที่พวกเขาคุ้นเคย อย่างท้องถนนที่เป็นเหมือนบ้านของพวกเขา





6.TOMORROWLAND



     ด้วยชะตาชีวิตที่ร่วมกัน แฟรงค์ อดีตเด็กอัจฉริยะ ผู้เหนื่อยหน่ายและท้อแท้ และเคซี่ สาวน้อยผู้ปราดเปรื่อง มองโลกในแง่ดี และมีความกระหายใคร่รู้ทางวิทยาศาสตร์ ต้องร่วมภารกิจสุดอันตรายในการไขปริศนาของสถานที่ลึกลับที่อยู่ที่ไหนสักแห่งในห้วงเวลาและอวกาศที่รู้จักแค่ชื่อที่ถูกเรียกขานว่า "ทูมอโรว์แลนด์" สิ่งที่เขาต้องทำที่นั่นจะเปลี่ยนแปลงโลก และพวกเขาไปตลอดกาล

          จากบทภาพยนตร์โดย แบรด เบิร์ด และผู้เขียนบท/ผู้ร่วมสร้าง "ลอสท์" เดมอน ลินเดลอฟ จากเรื่องราวโดย ลินเดลอฟ, เจฟฟ์ เจนเซ่น, และแบรด เบิร์ด Tomorrowland ผจญแดนอนาคต จะพาผู้ชมไปสู่การผจญภัยสุดตื่นเต้นแบบนอนสต็อปสู่มิติใหม่ที่เคยอยู่แค่ในฝันเท่านั้น





7.CINDERELLA 

Cinderella-(36)

ากเทพนิยายปรัมปราที่ได้รับความนิยมเป็นสูงสุดทั่วโลก และได้รับการดัดแปลงมาแล้วหลากหลายรูปแบบมากกว่าพันครั้ง สู่การกลับมาโลดเล่นในโลกภาพยนตร์ผ่านจอเงินอีกครั้งในฉบับคนแสดง จาก วอลท์ ดิสนีย์ เจ้าเก่า ผลงานการกำกับของ เคนเนธ บรานาห์ (Kenneth Branagh) ที่นำเรื่องเล่าของรองเท้าแก้วและรถม้าฟักทอง กลับมาให้ทุกคนสัมผัสกันอีกครั้ง
เรื่องราวของ เอลล่า (รับบทโดย Lily James) ลูกสาวพ่อค้าเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ซึ่งหลังจากการตายของแม่เธอ พ่อของเธอก็ได้แต่งงานใหม่กับหญิงม่ายลูกติดนามว่า เลดี้ เทรเมน (Cate Blanchett) ด้วยหวังว่าจะมาเป็นแม่ใหม่ เพื่อดูแลลูกสาวคนเดียวของตน แต่หลังจากการตายจากไปของพ่อเอลล่าอีกคน ทำให้ธาตุแท้ของแม่เลี้ยงปรากฏออกมา…
เลดี้ เทรเมน และลูกสาวของเธอ อนาสเทเชีย (Holliday Grainger) กับ ดริเซลล่า (Sophie McShera) เข้ามามีอำนาจในการปกครองทรัพย์ของครอบครัวเอลล่าทั้งหมด เอลล่าจำต้องตกอยู่ภายใต้ความอนุเคราะห์ของครอบครัวใหม่ขี้อิจฉาและร้ายกาจนี้ จนสุดท้ายก็ไม่พ้นการเป็นสาวรับใช้ซึ่งรับหน้าที่ดูแลงานบ้านทั้งหมด จนได้ฉายาใหม่จากความเกลียดชังว่า “ซินเดอเรลล่า” ซึ่งมีที่มาจากเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยฝุ่นและเถ้าถ่านฟืน 
จนกระทั้งวันหนึ่ง หลังจากการต้องเผชิญกับความโหดร้ายที่ถาโถมเข้ามาสู่ชีวิตเธอ เอลล่าก็ได้พบกับชายแปลกหน้ารูปงามในป่า ซึ่งเธอเข้าใจเพียงว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากในวัง โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ว ชายหนุ่มดังกล่าวคือ เจ้าชายชาร์มมิ่ง (Richard Madden) บุตรชายของพระราชา ผู้ที่สามารถทำให้เธอได้สมผัสถึงความอ่อนโยนและมีเมตตาอีกครั้ง 

โชคชะตาชีวิตของเอลล่ากำลังจะปลี่ยนไป เมื่อพระราชวังได้ประกาศเชิญหญิงสาวทั่วเมืองมาร่วมงานเต้นรำ ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงก็เพื่อหาคู่ให้กับเจ้าชาย ทำให้เอลล่ากลับมีความหวังในการที่จะได้เจอกับชายหนุ่มแปลกหน้า ซึ่งเธอไม่รู้ว่าคือเจ้าชาย อีกครั้ง  
  Cinderella-(27)

แต่แล้ว แม่เลี้ยงใจร้ายของเธอก็ได้ทำลายฝันที่สวยงามลง เมื่อนางสั่งห้ามและฉีกทำลายชุดของเอลล่าจนไม่สามารถไปงานเต้นรำได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากนางฟ้าแม่ทูนหัวของเอลล่า ซึ่งปลอมตัวมาเป็นเพียงหญิงขอทานข้างถนน ก็ได้แปลงกายให้เธอกลับมาโดดเด่นในงานเต้นรำนี้ได้ในท้ายที่สุด ด้วยฟักทองและหนูเพียง 2-3 ตัว เวทมนต์ที่เหมือนฝันครั้งนี้ จะจบลงเช่นไร? เมื่อทุกอย่างจะจบสิ้นสุดลงเมื่อผ่านพ้นเที่ยงคืน
Cinderella-(26)

8.FIFTY SHADES OF GREY





  การพบกันครั้งแรกระหว่าง อนาสตาเซีย สตีล กับนักธุรกิจที่มีบาดแผลในใจเช่น คริสเตียน เกรย์ ก่อเชื้อไฟที่ทำให้เกิดสัมพันธ์รักซึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนทั้งสองไปอย่างไม่อาจหวนคืน แอนารู้ดีเสมอว่าการรักคริสเตียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจะทำให้เกิดความยุ่งยากในแบบที่เขาและเธอไม่คาดคิด แอนาต้องเรียนรู้ที่จะที่จะใช้ชีวิตรุ่มรวยตามอย่างเกรย์โดยไม่ทำให้ความเชื่อและอิสระของเธอถูกบั่นทอนไป ส่วนเกรย์ก็ต้องละซึ่งความอยากที่จะเข้าควบคุม และข้ามพ้นอดีตที่ยังหลอกหลอนเค้าให้ได้ ในที่สุดทั้งสองก็ได้อยู่ด้วยกัน ได้มีความรักอันลึกซึ้ง โลกทั้งใบจึงเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมายไม่สิ้นสุด เมื่อทุกอย่างดูจะลงเอยด้วยดีแล้ว เคราะห์และโชคชะตากลับเล่นตลกด้วยการทำให้ฝันร้ายที่สุดของแอนาเป็นจริง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป คริสเตียนและแอนาจะเดินบนทางสายกุหลาบหรือขวากหนามกันแน่

     

         
 Fifty Shades of Grey นำแสดงโดย เจมี่ ดอร์แนน (Jamie Dornan) รับบทเป็น คริสเตียน เกรย์, ดาโกตา จอห์นสัน (Dakota Johnson) รับบทเป็น อนาสตาเชีย สตีล, เจนนิเฟอร์ อีลีห์ (Jennifer Ehle), ลุค กริมส์ (Luke Grimes), วิคเตอร์ ราซุก (Victor Rasuk) จากฝีมือการเขียนบทของ เคลลี มาร์เซล (Kelly Marcel) ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Saving Mr. Banks (2013) โดยมี แซม เทเลอร์-จอห์นสัน (Sam Taylor-Johnson) รับหน้าที่กำกับ




9.TRAINWRECK


B9lmWk2CEAA4jHt'

สรุปย่อเรื่องราวของหญิงสาวที่ไม่ชอบผูกมัด เพราะเธอไม่เชื่อมั่นกับความรัก และ ความสัมพันธ์อันยาวนาน โดยเธอเห็นว่าชีวิตของเธอก็มีความสุขได้โดยไม่ต้องมีมัน จนกระทั่งความคิดนั่นของเธอจะเปลี่ยนไป เมื่อได้เจอคุณหมอชายหนุ่มคนนึง ที่กำลังตามจีบเธออย่างไม่หยุดหย่อน!!!




10.STAR WARS

20 อันดับหนังที่น่าจับตามองในปี 2015

 คงจะหนีไม่พ้นการคืนจอของหนังสงคราม อวกาศอย่าง Star Wars ซึ่งกลับมาในชื่อแบบเต็ม ๆ ว่า Star Wars: The Force Awakens โดยเป็นฝีมือของผู้กำกับ เจเจ เอบรัมส์ (J.J. Abrams) ที่นำทีมนักแสดงชื่อดังกลับมาเล่าเรื่องราว 30 ปีหลังจากเหตุการณ์ใน Star Wars Episode 6 : Return of the Jedi ซึ่งออกฉายเมื่อปี 1983 ซึ่งจะมีนักแสดงหน้าใหม่มารับบทเป็นตัวละครที่เราคุ้นเคยอย่างแน่นอน ส่วนจะมีใครบ้างนั้นก็รอติดตามได้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2015 ตามกำหนดการในประเทศไทย


11.TED 2



  สำหรับเรื่องราวของ Ted 2 จะพูดถึงการสู้คดีในชั้นศาลของเท็ด เพื่อขอสิทธิ์มีบุตรร่วมกับแฟนสาวซึ่งเป็นมนุษย์ โดยในครั้งนี้ เซ็ธ แม็คฟาร์เลน (Seth MacFarlane) กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้เขียนบท, ผู้กำกับ, โปรดิวเซอร์ และให้เสียงพากย์เป็นหมีจอมแสบ 

           ร่วมด้วยนักแสดงคู่หู มาร์ค วอห์ลเบิร์ก (Mark Wahlberg) ที่ควงคู่นักแสดงคนใหม่อย่าง อแมนดา ไซย์ฟรีด (Amanda Seyfried) มาสวมบทคนรักของเขา นอกจากนี้ยังมี มิล่า คูนิส (Mila Kunis), แพทริค วอร์เบอร์ตัน (Patrick Warburton), เจสสิก้า บาร์ท (Jessica Barth) รวมถึงดาราระดับแม่เหล็กอย่าง เดนนิส เฮย์สเบิร์ท (Dennis Haysbert), มอร์แกน ฟรีแมน (Morgan Freeman) และเลียม นีสัน (Liam Neeson) ที่จะปรากฏตัวในหนังชุดนี้เป็นครั้งแรก



12.KILL YOUR FRIENDS


      สร้างจากนิยายขายดี เมื่อโปรดิวเซอร์เพลงหนุ่ม (ฮอลท์) ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาหน้าที่การงานของตัวเอง ในโลกเพลงบริท-ป็อปที่มีการแข่งขันสูง เขาตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาเพลงฮิตติดชาร์ทให้ได้ ถึงแม้ว่ามันทำให้เขาต้องจัดการใครทุกคนที่ขวางทาง





13.PAPER TOWNS

 คิว (แนท วอล์ฟ) เด็กหนุ่มที่ชีวิตกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อสาวฮอตในฝัน มาร์โก้ (คาร่า เดอเลวีญ) ย้ายมาอยู่ข้างบ้าน และถึงแม้สังคมในโรงเรียนของทั้งคู่จะต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่แล้วคืนหนึ่งมาร์โก้ก็ชักชวนคิวออกมาทำเรื่องป่วน ๆ ร่วมกันจนได้ ซึ่งหลังจากคืนแสนพิเศษผ่านพ้นได้ไม่นาน มาร์โก้กลับหายหน้าไปเฉย ๆ เสียอย่างนั้น เดือดร้อนถึงคิวที่ต้องชักชวนเพื่อน ๆ ออกตามหาเธอให้พบจนได้



14.THE DUFF

เดอะ ดัฟ คือคำนิยามของ คน ๆ หนึ่งที่อยู่ภายในกลุ่มเพื่อนที่มีลักษณะ ไม่สวยหรือดูดีน้อยกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ภายในกลุ่ม คนที่เป็นดัฟฟ์จึงโชคร้ายเพราะเป็นข้อเปรียบเทียบเพื่อทำให้เพื่อนคนอื่นดูดีขึ้นเท่านั้น

          บิอังก้า กำลังเรียนไฮสคูลปีสุดท้าย จากโลกที่สดใสกลับต้องพังทลาย เพราะเธอเพิ่งได้เรียนรู้ว่าเธอเป็นดัฟของกลุ่มเพื่อนของเธอ เธอจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดคำครหาเหล่านี้ พร้อม ๆ กับหาวิธีพิชิตใจคนที่เธอแอบชอบไปพร้อม ๆ กัน





No comments:

Post a Comment

แปลเพลง Honest - Justin bieber lyrics

  แปลเพลง Honest - Justin bieber lyrics Written, Edited & Directed by Cole Bennett Official “Honest” Lyrics  [Chorus: Justin Bieber] ...