sea

sea

Friday, April 29, 2022

แปลเพลง Honest - Justin bieber lyrics

 


แปลเพลง Honest - Justin bieber lyrics


Written, Edited & Directed by Cole Bennett

Official “Honest” Lyrics
 [Chorus: Justin Bieber]
Honest (honest)
ซื่อสัตย์ (ซื่อสัตย์)
Your modest, I like it (I like it)
ความเจียมตัวของเธอนั้น ฉันชอบมัน (ฉันชอบมัน)
You stay down And you the baddest (baddest)
เธออยู่ต่ำกว่าและเธอก็ร้ายสุดๆ (ร้ายสุดๆ)
Find you in the cut, I copped it (I copped it)
ฉันเจอเธอโดยบังเอิญ ฉันถูกจับ (ฉันถูกจับ)

Honest (honest)
ซื่อสัตย์ (ซื่อสัตย์)
You kept it real with me from jump (from jump)
เธอทำให้ฉันเริ่มกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
It’s 23 when you get dunked on (splash)
เธออายุ 23 ตอนที่เธอถูกหลอกด้วยความอับอาย(splash)
I put it in and that’s your song (and that’s your song)
ฉันใส่มันเข้าไปและมันก็คือเพลงของเธอ (และมันก็ือเพลงของเธอ)
Off top you the sun in my morning
เธอคือดวงอาทิตย์ของฉันในทุกๆเช้า
I tried to get away but its boring
ฉันพยายามจะหนีแต่มันก็น่าเบื่อเกินไป
You’re my safe haven
เธอคือที่ที่ปลอดภัยของฉัน
I need it all alone
ฉันต้องการมันเพียงคนเดียว
And you my dime piece
และเธอคือของขวัญชิ้นพิเศษ
And I can’t take less than one
และแน่นอนฉันก็ไม่ได้ต้องการเพียงแค่หนึ่งชิ้น

You the (whew) You the one
เธอคือ เธอคือเบอร์ 1 ของฉัน
Trinity you like three in one
ทรินิตี้, เธอเป็นได้ถึงสามอย่างในคนๆเดียว
Ratio ten to one
10:1 เลยทีเดียว


You get spicy
เธอช่างเร่าร้อน
I like that cajun on you
ฉันชอบ cajun (เครื่องเทศ) ที่อยู่บนตัวเธอ
On occasion that’s your testimony
เนื่องในโอกาสที่ให้คำสาบาน


I like that hazel on you
ฉันชอบสี hazel (น้ำตาลแดง) ที่อยู่บนตัวเธอ
I look straight in your eyes
ตอนที่ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเธอ
Holy matrimony
ในงานวิวาห์อันแสนศักดิ์สิทธิ์
 
Honest (honest)
ซื่อสัตย์ (ซื่อสัตย์)
You kept it real with me from jump (from jump)
เธอทำให้ฉันเริ่มกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
It’s 23 when you get dunked on (splash)
เธออายุ 23 ตอนที่เธอถูกหลอกด้วยความอับอาย(splash)
I put it in and that’s your song (and that’s your song)
ฉันใส่มันเข้าไปและมันก็คือเพลงของเธอ (และมันก็ือเพลงของเธอ)

 [Verse 2: Don Toliver]
Yeah honest
ใช่ ซื่อสัตย์
Spicy I like it
ช่างเร่าร้อน ฉันชอบมัน
Facetime me the weed I just might buy it
เฟสไทม์ขายกัญชาให้กับฉันฉันอาจซื้อมันนะ
Throw it back on the couch I just might try (Ohhhh spicy)
ย้อนกลับไปตอนที่อยู่นโซฟาฉันอาจลอง (โอ้ ช่างเร่าร้อน)
Damn that booty thick
บั้นทายนั้นใหญ่จริงๆ
I like it
ฉันชอบมัน

Hey Justin B
เฮ้ Justin B
I know you don’t do this often
ฉันรู้ว่านายคงไม่ทำอะไรแบบนี้บ่อยๆแน่
But this here sneak and geek
แต่ที่นี่นายจะได้ sneak and geek
Fuck that Mclaren
ช่างหัวรถ Mclaren เหอะ
Im ridin the jeep
ตอนนี้ฉันขับรถ jeep อยู่
I got in the club with all of my thugs
ฉันอยู่ในคลับกับพรรคพวกอันธพาลของฉัน

Im packing that pistol Pete
กำลังเก็บไอ้ pistol Pete
Better watch your mouth
พวกนายก็ระวังปากไว้ดีๆ
Gotta pick a side before you jump and leap
เลือกข้างให้ดีก่อนที่จะหนีและเผ่น
I was selling thee nickels and dimes in dubs
 ฉันเคยขายเหรียญนิเกิลและสลึงใน dubs
But crack in my sock it ain’t me
แต่หุบปากไว้ซะ มันไม่ใช่ฉันในตอนนี้

But baby I like it
แต่ที่รัก ฉันชอบมัน
Imma pull that double R to your crib just for once
ฉันจะดึง R สองตัวจากเปลนายในครั้งเดียว
It’s 23 when you get dunked
ตอน 23 ที่เธอเคยอับอาย
Me and JB smokin skunk
ฉันกับ JB กำลัง smokin skunk


Oh, honest
ชื่อสัตย์
Honest (honest)
ซื่อสัตย์ (ซื่อสัตย์)
Your modest, I like it (I like it)
ความเจียมตัวของเธอนั้น ฉันชอบมัน (ฉันชอบมัน)
You stay down And you the baddest (baddest)
เธออยู่ต่ำกว่าและเธอก็ร้ายสุดๆ (ร้ายสุดๆ)
Find you in the cut, I copped it (I copped it)
ฉันเจอเธอโดยบังเอิญ ฉันถูกจับ (ฉันถูกจับ)

Honest (honest)
ซื่อสัตย์ (ซื่อสัตย์)
You kept it real with me from jump (from jump)
เธอทำให้ฉันเริ่มกลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง
It’s 23 when you get dunked on (splash)
เธออายุ 23 ตอนที่เธอถูกหลอกด้วยความอับอาย(splash)
I put it in and that’s your song (and that’s your song) oh honest
ฉันใส่มันเข้าไปและมันก็คือเพลงของเธอ (และมันก็ือเพลงของเธอ) โอ้ ซื่อสัตย์

Tuesday, October 27, 2020

Fonts ig วิธีใส่ฟ้อนต์ตัวอักษรใน Instagram สวยๆไว้ตกแต่ง ไม่ต้องโหลดแอพ

 



วิธีใส่ฟ้อนต์ตัวอักษรใน Instagram สวยๆไว้ตกแต่ง 

ไม่ต้องโหลดแอพ


คลิ้ก >> https://igfonts.io/



Sunday, April 7, 2019

แปลงไฟล์รูปภาพ เอกสาร เป็นข้อความภาษาไทยได้ง่ายๆด้วย Google Docs





ทางเว็บไซต์ Google Drive มี feature พิเศษที่สามารถแปลงไฟล์ภาพ ไฟล์เอกสาร pdf ให้เป็นตัวอักษรได้อัตโนมัติ ผ่านทาง Google Docs และข่าวดีสำหรับคนไทยเพราะตอนนี้ทาง Google Docs ได้เพิ่มการรองรับภาษาไทยเข้าไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าต่อไปนี้ การพิมพ์งานจากเอกสาร รูปภาพต่างๆ นั้นจะไม่เป็นรื่องยากอีกต่อไป





  • รูปแบบ: คุณสามารถแปลงไฟล์ .JPEG, .PNG, .GIF หรือ PDF (เอกสารหลายหน้า) ได้


  • ขั้นตอนการแปลงไฟล์

     1. เข้า website ของ Google Drive https://www.google.com/drive/     แล้ว  Login ด้วย gmail 
        เมื่อ login เข้ามาใน Google Drive แล้ว กดปุ่ม    +ใหม่ เพื่ออัปโหลดไฟล์ที่เราต้องการ


    2.เมื่ออัปโหลดไฟล์เรียบร้อยแล้ว คลิกขวาที่ไฟล์ที่เราต้องการ > เลือก เปิดด้วย > Google เอกสาร





    3.รอสักครู่ หน้าของ Google Docs จะเปิดขึ้นมา พร้อมแปลงไฟล์ภาพเป็นตัวอักษรให้อัตโนมัติ สามารถคัดลอกเพื่อนำไปใช้งานได้เลย 


    Friday, March 11, 2016

    The dressmaker รีวิว - หนังแฟชั่นตลกสายดาร์ก (review)



    ก่อนอื่นต้องขอบอกกับเพื่อนๆก่อนว่าใครที่โลกสวยต้องคิดดีๆเลยค่ะ อย่าพึ่งสงสัยว่ามันเป็นหนังแฟชั่นไม่ใช่เหรอ? มันมีมุกตลกด้วยนะ แล้วทำไมถึงพูดแบบนี้หล่ะ (ฮา) คืออยากจะบอกว่าตัวอย่างหนังกับหนังเต็มเรื่องนั้นไม่เหมือนกันเลยค่ะ เหมือนผู้กำกับจงใจแกล้งผู้ชมอย่างงั้นเลย555 ตอนแรกคิดว่าจะกลับบ้านเกิดมาแก้แค้นแล้วทุกอย่างสงบสุขแฮปปี้ แต่ไหงเรื่องนี้กลับทำร้ายจิดใจได้เพียงนี้ 

    เรื่องย่อ
    เรื่องนี้เป็นเรื่องของหญิงสาว ทิลลี่ ดันเนธ ที่เป็นช่างตัดเสื้อผู้นำแฟชั่นและมากฝีมือ ได้เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอที่เมืองชนบทในออสเตเรียหลังจากถูกส่งตัวออกนอกเมืองเมื่อ 10 ปีที่แล้วด้วยข้อหาที่ว่าเธอเป็น 'ฆาตกร' ฆ่าเพื่อนผู้ชายของตนเอง เธอเลยได้กลับมาเพื่อที่จะหาข้อความจริงว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นฆาตกรหรือไม่โดยการตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อผูกใจชาวบ้านและกลับมาแก้แค้นด้วย
    เธอได้กลับมาตัดเย็บเสื้อผ้ากับแม่ของเธอ ในระหว่างที่เธอไม่อยู่ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งดูแลแม่ของเธอตลอดมานั่นก็คือ เท็ดดี้(พระเอกของเรื่องนั่นเอง) 


    ฉากเปิดเลยคือนางถือกระเป๋าใส่จักรเย็บผ้ายี่ห้อ singer ซึ่งมันดูเป็นเอกลักษณ์ของยุค 50's มากๆ


    ฉากที่นางเอกไปเผยตัวให้เห็นชาวบ้านในการแข่งขันกีฬา เนื่องจากนางเซกซี่เกินไปเลยทำให้นักกีฬาไม่มีสมาธิในการแข่งขัน (มันก็จริงแหละ55) ส่วนคนด้านซ้ายของนางก็คือตำรวจผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่และคอยช่วยเหลือนางตลอด



    ในเมื่อเรื่องนี้เป็นหนังแฟชั่นมันเป็นไปไม่ได้เลยค่ะที่ชุดในเรื่องจะไม่เด่น (ไม่เลยจริมๆ)ใครที่ชื่นชอบแฟชั่นยุค 50's อยากจะบอกว่านางจัดเต็มมากๆ


    นางเอกกลับมาแก้แค้นละจ้า



    นอกจากนางเอกจะแซ่บแล้วอย่าลืมว่าพระเอกของเราก็ไม่น้อยหน้านะก้าาา มีฉากโรแมนติดกให้ฟินเวอร์ตลอด แต่อย่าพึ่งดีใจไปนะคะถ้าดูแล้วจะรู้ซึ้งเองค่ะ 55

    ชีวตในวัยเด็กของนางเอกน่าสงสารมากๆ นางมักจะโดนแกล้งและโดนทำร้ายเสมอ  ในหมู่บ้านนี้มีคนอยู่หลายประเภทมากๆ และทุกคนต่างก็เกลียดนางเอก โดยเฉพาะคุณครูที่คอยจะเอาแต่ทำร้ายเธอ  ยกเว้นพระเอกกับพี่ชายของพระเอกผู้ที่สติไม่สมประกอบและตำรวจเท่านั้นที่ไม่เกลียดเธอ 



    และพี่ชายของพระเอกก็คือผู้ที่จะเฉลยความจริงทั้งหมดเพราะเขาเป็นคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่านางเอกคือฆาตกรจริงๆหรือไม่


    ใครบอกว่าหนังตลกจะเศร้าไม่ได้ เรื่องนี้มีทุกรสทุกอารมณ์ มีมุกฮาๆแทรกตลอดทั้งเรื่องแต่ก็แฝงไปด้วยความดาร์ก ความเศร้าและน่าสงสารที่เป็นไปยากที่จะไม่ร้องไห้ตามนางเอก 

    จริงๆแล้วแล้วหนังเรื่องนี้มันค่อนข้างหดหู่มากๆ ทำให้เห็นความจริงของชีวิตว่าไม่มีอะไรที่จะจบลงอย่างสวยงามทั้งหมด ความเกลียด การแก้แค้น ความเจ็บปวดที่มันฝังลึกอยู่ข้างในจิตใจ 
    นอกจากนี้ยังสะท้อนอารมณ์ได้หลายแนวมากๆจนถึงกับอึ้งว่ามันจริงหรือเนี่ย นี่กะจะให้มันเป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย ม่ายยยยย

    เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตที่มีหลายความรู้สึกในเรื่องเดียวกัน หลายอารมณ์หลายความคิด นอกจากนี้เรื่องยังมีการสืบสวนอยู่เล็กน้อยกับการที่นางเอกหาข้อมูลแล้วได้พบกับความจริงที่เป็นเบื้องหลังของเรื่องราวต่างๆ 

    ที่เล่ามาข้างต้นไม่มีมีสปอยส์เลยนะคะ เพราะเรื่องมันสนุกดาร์กพลิกล็อกแบบโคตรรรรร 
    เกินกว่าจะสปอยส์ได้ ต้องดูเองแล้วจะเข้าใจว่าทำไมโลกสวยถึงไม่ควรดู


    แม่ของนางเอกที่น่าสงสารมากๆ นางต้องพลัดพรากจากลูกอันเป็นที่รักไป แต่นางก็มีสีสันให้กับเรื่องอย่างสุดๆเลยค่ะ


    พระเอกและนางเอก แซ่บลืมมม


    คะแนน 10/10 ไปเลยค่ะ 
    ไม่เคยคิดว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วจะได้รับอะไรมากมายขนาดนี้มาก่อน

    เพลงก็เพราะ
    คอสตูมก็ปังเวอร์
    เนื้อเรื่องก็พลิกมาก
    มุกก็ฮา
    พระเอกก็หล่อนางเอกก็เซกซี่ (เกี่ยวมั้ย555)


    Stressed Out - twenty one pilots แปลเพลง (lyrics)




    I wish I found some better sounds no one's ever heard,
    I wish I had a better voice that sang some better words,
    I wish I found some chords in an order that is new,
    I wish I didn't have to rhyme every time I sang,

    ฉันขอภาวนาให้ฉันทำบทเพลงได้ดีขึ้นแบบที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
    ฉันขอภาวนาให้ฉันมีเสียงที่ดีกว่าเดิมเพื่อที่จะได้ร้องเพลงได้ดีขึ้น
    ฉันขอภาวนาให้ฉันได้พบคอร์ดเพลงใหม่ๆ
    ฉันขอภาวนาให้ฉันไม่จำเป็นต้องใช้เสียงสัมผัสแต่สามารถรองมันออกมาได้ทุกๆครั้ง

    I was told when I get older all my fears would shrink,
    But now I'm insecure and I care what people think.

    ฉันถูกบอกมาว่าถ้าฉันโตขึ้นความกลัวทั้งหมดของฉันมันจะอยู่ลึกลงไป
    แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกไม่มั่นใจ และฉันก็แคร์กับสิ่งที่คนอื่นคิดนะ

    My name's 'Blurryface' and I care what you think.
    My name's 'Blurryface' and I care what you think.

    ฉันชื่อว่า Blurryface และฉันก็แคร์นะกับสิ่งที่พวกคุณคิด
    ฉันชื่อว่า Blurryface และฉันก็แคร์นะกับสิ่งที่พวกคุณคิด

    Wish we could turn back time, to the good ol' days,
    When our momma sang us to sleep but now we're stressed out.
    Wish we could turn back time, to the good ol' days,
    When our momma sang us to sleep but now we're stressed out.

    ภาวนาให้พวกเราย้อนเวลากลับไปยังวันเก่าๆที่แสนดี
    ตอนที่แม่ร้องเพลงกล่อมพวกเราให้เข้านอน แต่ตอนนี้พวกเรามีแต่ความเครียดถาโถมเข้าใส่
     ภาวนาให้พวกเราย้อนเวลากลับไปยังวันเก่าๆที่แสนดี
    ตอนที่แม่ร้องเพลงกล่อมพวกเราให้เข้านอน แต่ตอนนี้พวกเรามีแต่ความเครียดถาโถมเข้าใส่


    We're stressed out.
    พวกเรามีแต่เรื่องเครียด

    Sometimes a certain smell will take me back to when I was young,
    How come I'm never able to identify where it's coming from,
    I'd make a candle out of it if I ever found it,
    Try to sell it, never sell out of it, I'd probably only sell one,

    บางครั้งกลิ่นบางกลิ่นก็ทำให้ฉันนึกถึงตอนยังเด็ก
    แต่ทำไมฉันถึงไม่สามารถบอกได้ว่ากลิ่นมันมาจากที่แห่งใด
    ฉันคงจะเอากลิ่นนี้มาทำเทียนหอมแน่ๆถ้าพบที่มาของมัน
    แล้วก็ลองขายมันดู แต่ไม่ขายหมดหรอกนะ จะลองขายแค่เล่มเดียวดู

    It'd be to my brother, 'cause we have the same nose,
    Same clothes homegrown a stone's throw from a creek we used to roam,
    But it would remind us of when nothing really mattered,
    Out of student loans and treehouse homes we all would take the latter.

    มันต้องมาจากพี่ชายฉันแน้ๆ เพราะว่าเรามีจมูกเหมือนกัน
    เสื้อก็เหมือน โตมาจากบ้านหลังเดียวกัน และก็เคยโยนก้อนหินในลำธารที่ไปเที่ยวด้วยกัน
    แต่มันก็ย้ำเตือนให้พวกเรานึกถึงเวลาที่ไม่มีอะไรสำคัญเลย
    ตอนที่ให้เลือกระว่างค่าเล่าเรียนกับบ้านตนไม้ ทุกคนก็คงจะเลือกอย่างหลัง

    My name's 'Blurryface' and I care what you think.
    My name's 'Blurryface' and I care what you think.

    ฉันชื่อว่า Blurryface และฉันก็แคร์นะกับสิ่งที่พวกคุณคิด
    ฉันชื่อว่า Blurryface และฉันก็แคร์นะกับสิ่งที่พวกคุณคิด


    Wish we could turn back time, to the good ol' days,
    When our momma sang us to sleep but now we're stressed out.
    Wish we could turn back time, to the good ol' days,
    When our momma sang us to sleep but now we're stressed out.

    ภาวนาให้พวกเราย้อนเวลากลับไปยังวันเก่าๆที่แสนดี
    ตอนที่แม่ร้องเพลงกล่อมพวกเราให้เข้านอน แต่ตอนนี้พวกเรามีแต่ความเครียดถาโถมเข้าใส่
     ภาวนาให้พวกเราย้อนเวลากลับไปยังวันเก่าๆที่แสนดี
    ตอนที่แม่ร้องเพลงกล่อมพวกเราให้เข้านอน แต่ตอนนี้พวกเรามีแต่ความเครียดถาโถมเข้าใส่


    We used to play pretend, give each other different names,
    We would build a rocket ship and then we'd fly it far away,
    Used to dream of outer space but now they're laughing at our face,
    Saying, "Wake up, you need to make money."
    Yo.

    เราเคยเล่นสวมบทบาท ตั้งชื่อต่างๆให้กัน
    เราเคยอยากจะสร้างยานอวกาศแล้วบินไปให้ไกล
    เคนเฝ้าฝันถึงนอกอวกาศแต่ตอนนี้พวกเขากลับหัวเราะใส่หน้าเรา
    แล้วพูดว่า'ตื่นเถอะ ออกไปหาเงินได้แล้ว'

    We used to play pretend, give each other different names,
    We would build a rocket ship and then we'd fly it far away,
    Used to dream of outer space but now they're laughing at our face,
    Saying, "Wake up, you need to make money."
    Yo.

    เราเคยเล่นสวมบทบาท ตั้งชื่อต่างๆให้กัน
    เราเคยอยากจะสร้างยานอวกาศแล้วบินไปให้ไกล
    เคนเฝ้าฝันถึงนอกอวกาศแต่ตอนนี้พวกเขากลับหัวเราะใส่หน้าเรา
    แล้วพูดว่า'ตื่นเถอะ ออกไปหาเงินได้แล้ว'

    Wish we could turn back time, to the good ol' days,
    When our momma sang us to sleep but now we're stressed out.
    Wish we could turn back time, to the good ol' days,
    When our momma sang us to sleep but now we're stressed out.

    ภาวนาให้พวกเราย้อนเวลากลับไปยังวันเก่าๆที่แสนดี
    ตอนที่แม่ร้องเพลงกล่อมพวกเราให้เข้านอน แต่ตอนนี้พวกเรามีแต่ความเครียดถาโถมเข้าใส่
     ภาวนาให้พวกเราย้อนเวลากลับไปยังวันเก่าๆที่แสนดี
    ตอนที่แม่ร้องเพลงกล่อมพวกเราให้เข้านอน แต่ตอนนี้พวกเรามีแต่ความเครียดถาโถมเข้าใส่


    Used to play pretend, used to play pretend, bunny
    We used to play pretend, wake up, you need the money
    Used to play pretend, used to play pretend, bunny
    We used to play pretend, wake up, you need the money
    We used to play pretend, give each other different names,
    We would build a rocket ship and then we'd fly it far away,
    Used to dream of outer space but now they're laughing at our face,
    Saying, "Wake up, you need to make money."
    Yo.

    เราเคยเล่นสวมบทบาทกัน
    เราเคยเล่นสวมบทบาทกัน แต่ ตื่นเถอะ ออกไปหาเงินได้แล้ว
    เราเคยเล่นสวมบทบาทกัน
    เราเคยเล่นสวมบทบาทกัน แต่ ตื่นเถอะ ออกไปหาเงินได้แล้ว
    เราเคยเล่นสวมบทบาท ตั้งชื่อต่างๆให้กัน
    เราเคยอยากจะสร้างยานอวกาศแล้วบินไปให้ไกล
    เคนเฝ้าฝันถึงนอกอวกาศแต่ตอนนี้พวกเขากลับหัวเราะใส่หน้าเรา
    แล้วพูดว่า'ตื่นเถอะ ออกไปหาเงินได้แล้ว'

    Wednesday, March 9, 2016

    แนะนำ12หนังสือนิยายภาษาอังกฤษที่น่าอ่านในช่วง Summer นี้






    pics from: www.telegraph.co.uk


    บางที summer เราก็ควรหาเวลาว่างในการอ่านหนังสือดีๆซักเล่ม เวลาเดินทางหรือพักผ่อนเบื่อๆก็สามารถหยิบมาอ่านได้ วันนี้เราเลยมีนิยายภาษาอังกฤษที่เหมาะสำหรับอ่านในช่วงซัมเมอร์สุดๆ อ่านไปก็อินไปกับบรรยากาศเลยจ้าาา


    1.NO WHERE BUT HERE


    Emily หญิงสาวอายุ 17ปี ที่มีความสุขกับชีวิตของตัวเองทั้งครอบครัว เพื่อนที่ดี โรงเรียนและเพื่อนบ้านที่ปลอดภัย และแน่นอนเธอก็อยากรู้เกี่ยวกับชีวิตของพ่อตัวเองที่มักจะใช้เวลาไปอยู่กับกลุ่มคนรักมอเตอร์ไซด์ที่หัวรุนแรง เธอจึงไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่งในโลกของพ่อเท่าไหร่ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็จะต้องรู้บางอย่างที่มากกว่านั้น




    2.EVEN IN THE PARADISE



    When Julia Buchanan enrolls at St. Anne’s at the beginning of junior year, Charlotte Ryder already knows all about the former senator’s daughter. Most people do... or think they do. Charlotte certainly never expects she’ll be Julia’s friend. But almost immediately, she is drawn into the larger than-life-new girl’s world—a world of midnight rendezvous, dazzling parties, palatial vacation homes, and fizzy champagne cocktails. And then Charlotte meets, and begins falling for, Julia’s handsome older brother, Sebastian. But behind her self-assured smiles and toasts to the future, Charlotte soon realizes that Julia is still suffering from a tragedy. A tragedy that the Buchanan family has kept hidden... until now 


    3.THE DISTANCE BETWEEN US



    Caymen Meyers เด็กสาววัย 17 ปี เธออาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในร้านขายตุ๊กตา ที่นั่นเธอได้เรียนรู้ว่าพวกคนรวยมีอะไรที่แตกต่างจากเธอมากมายนัก และสิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจเหลือเกินคือคนพวกนั้นมีดีอยู่เพียงอย่างเดียว นั่นคือการใช้เงินหมดไปกับของไร้สาระอย่างตุ๊กตาในร้านของแม่เธอ แต่แล้วเมื่อวันหนึ่ง Xander Spence ได้ก้าวเข้ามาในร้าน มองแค่แวบเดียว Caymen ก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้ก็คงไม่ต่างจากพวกลูกค้ากระเป๋าหนัก แต่ขี้เบื่อคนอื่นๆแต่เธอคิดผิด
    ยังคอยมาหาเธอไม่ขาด แล้วคราวนี้ Caymen จะทำยังไงดีล่ะ ทั้งที่หัวใจเตือนให้อยู่ห่างจากเขา แต่ยิ่งอยู่ใกล้ Xander เท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้ว่าตัวเองมีความสุขแค่ไหน! แต่เส้นทางมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่เธอคิด Caymen ตระหนักดีว่าแม่ของเธอเกลียดพวกคนรวยเข้าไส้ สักวันหนึ่งเเม่เธอคงจะรู้เรื่องความสัมพันธ์นี้เข้า และต้องต่อต้านเธอเป็นแน่ แม้ Xander จะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าการที่เขามีฐานะ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีนิสัยแย่ๆเหมือนคนอื่น แต่ Caymen กลับพบว่าเงินนั้น..เป็นส่วนสำคัญในความสัมพันธ์ครั้งนี้ยิ่งกว่าที่คิดเสียอีก

    4.LOOKING FOR ALASKA



    อลาสก้าขึ้นชื่อว่าตัวร้ายในโรงเรียน ทว่าชีวิตครอบครัวของเธอน่าสงสารยิ่งนัก วันหนึ่งขณะที่รวมกลุ่มกันเล่นแผลงๆ ตกดึกก็มาแอบกินเหล้ากันในหอพัก แล้วจู่ๆเธอก็ลุกขึ้นขับรถออกไปตอนกลางคืน จุดนั้นเองคือการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเธอ เพื่อนๆ ทุกคน เรียกว่าทั้งโรงเรียนประจำแห่งนั้นก็ได้ พากันเศร้าสลดกับเหตุการณ์ จนมาสะกิดใจว่า ทำไมอลาสก้าต้องออกไป จากนั้นจึงเป็นการพยายามสืบหาเบื้องหลังของการขับรถออกไปคนเดียวจนประสบอุบัติเหตุ


    5.YES PLEASE



    รื่องนี้เป็นเรื่องราวของผู้หญิงที่ชื่อAmy Poehler เธอจะมาเล่าเกี่ยวกับpersonal storiesheart_eyes มีทั้งตลกปนเรื่องเซกซ์นิดหน่อย และยังเล่าถึง ความรัก มิตรภาพ ความเป็นพ่อแม่ และเรื่องราวต่างๆในชีวิตจริง เรื่องนี้ทั้งตลกและเมื่อถึงเวลาที่จริงจังก็มีสาระมากมาย อ่านแล้วเข้าถึงผู้เขียนสุดๆค่ะ


    6.Amy & rogers epic detour



    Amy curry ไม่ได้อยากที่จะหาอะไรทำในช่วงฤดูร้อนแต่แม่ของเธอตัดสินใจที่จะย้ายไปต่างประเทศและตอนนี้ก็เป็นความรับผิดชอบของamy ที่จะต้องขับรถจาก California ไปยัง ปัญหาเดียวก็คือ ตั้งแต่พ่อของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุขณะขับรถ เธอยังไม่พร้อมที่จะมาประขับรถให้เคลื่อนตามถนนได้ roger.เพื่อนของเธอจากครอบครัวเก่าแก่ข้างบ้าน,เขาก็มีทริปขับรถข้ามประเทศเช่นกันและถึงแม้ถนนนั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมิตรภาพของพวกเขา พวกเขาต้องไปในดินแดนที่แปลกใหม่หนทางที่ไม่รู้จักมาก่อนjapan แต่ถึงอย่างไร amy และ roger ก็จะสร้างแผนที่ของทางเดินพวกเขาที่จะห้าวไปด้วยกันแน่นอน



    7.the girl on the train



    เรื่องถูกเล่าผ่านตัวละครผู้หญิง 3 คน Rachel, Megan กับ Anna เริ่มต้นเรื่องด้วย Rachel นางเป็นขี้เมา ผัวทิ้ง ถูกไล่ออกจากงาน แต่ยังหลอกเพื่อนร่วมบ้านโดยการนั่งรถไฟออกไปทำงานทุกวัน รถไฟที่เธอนั่งจะผ่านบ้านบนถนน Blenheim เธอเฝ้ามองคู่สามีภรรยาของบ้านหลังหนึ่งจากบนรถไฟแล้วจินตนาการเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมา บ้านหลังนั้นคือบ้านของ Megan และบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันที่เธอไม่อาจแสร้งเป็นมองไม่เห็นมัน เป็นบ้านของผัวเก่ากับเมียใหม่ของเขา Anna แล้วพล็อตของเรื่องก็ถูกสร้างผ่านเหตุการณ์การหายตัวไปของ Megan และจากบนรถไฟนั้น Rachel เห็นว่า Megan อาจจะมีชู้ และเธอไม่อาจระงับแรงกระตุ้นที่อยากเข้าไปยุ่งไม่ได้ ความซับซ้อนในเกมรักเกมอารมณ์อยู่ในระดับโอเค แต่การบรรยายความรู้สึกนึกคิดของพวกเธอนั้น Hawkins ทำได้ชวนเชื่อดีทีเดียว ลีลาการเผยแง้มปมก็เข้าท่า ถือว่าลงตัวการสร้างบรรยากาศชวนหลอน ชวนหดหู่ ก็ออกมาดี อ่านเพลิน ไม่ทันรู้สึกเบื่อเราก็พลิกหน้าหนังสือไปจนถึงจุดที่ไม่อาจถอนตัว



    8.LOVE ROSIE



    ขอบอกว่าตลกมากแอบจิตนิดๆและซึ้งสุดๆ เป็นเรื่องราวของ “โรซี่ ดันน์” และ “ อเล็กซ์ สจ็วต” ที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กและวาดฝันไว้ด้วยกันว่าจะเข้ามหาลัยในที่เดียวกัน แต่หลังจากปาตี้โรซี่ดันพลาดตั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยความรักที่มีต่ออเล็กซ์จึงทำให้โรซี่ไม่อยากเป็นถ่วง ที่ทำให้อเล็กซ์ทิ้งความฝันที่วาดไว้ จึงปล่อยให้อเล็กซ์ไปเรียนต่อและได้เจอสังคมใหม่แต่เพียงคนเดียวด้วยระยะเวลาที่ห่างไกล และด้วยเวลาที่แสนจะยาวนานไหนจะสังคมใหม่ที่อเล็กซ์ได้เจอ เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้การกลับมาพบกันอีกครั้งของโรซี่และอเล็กซ์ มันเป็นกลายข้อพิสูจน์ที่ทำให้คนดูต้องมานั่งลุ้นกันว่า 2 คนนี้จะเป็นคู่แท้กันหรือไม่ และจะลงเอยกันอย่างไร

    9.THE SUMMER I TURN PRETTY



    Belly เด็กสาวอายุ 16 ปี ทุกๆซัมเมอร์เธอ แม่ และพี่ชายมีแพลนว่าจะไปเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลของSusannahเพื่อนสนิทแม่ ที่นั่นเธอจะได้พบกับJeremiah , Conrad ลูกชายของSusannah ทั้งJereและConต่างเป็นทั้งพี่ชาย เพื่อนสนิท และที่สำคัญConยังเป็นรักแรกของเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยซะด้วยสิ! จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเพื่อนเล่นสมัยเด็กกลับกลายเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ เล่มนี้ชอบเจียมากๆ คาแรกเตอร์แบบพระรองแสนดี ขี้เล่น แต่นางเอกไม่เอา ฮ่าๆ เบลลี่นี่เรารู้สึกรำคาญนิดนึง เพราะนางจะค่อนข้างหลงตัวเอง แล้วก็หวงเจียกับคอนจนออกนอกหน้า เลยไม่อยากให้เพื่อนสนิทตัวเองมาเที่ยวด้วย คอนก็แนวพระเอกเย็นชา ที่จริงเราแอบหมั่นไส้มันนะ นิสัยก็กวนทีน ปากแข็ง บลาๆ คาแรกเตอร์แบบพระเอกนิยายแจ่มใสเลยซัมเมอร์นี้คงวุ่นน่าดู ไปตามต่อในหนังสือเลยจ้า 





      10.It's Not Summer Without You


    It used to be that Belly counted the days until summer, until she was back at Cousins Beach with Conrad and Jeremiah. But not this year. Not after Susannah got sick again and Conrad stopped caring. Everything that was right and good has fallen apart, leaving Belly wishing summer would never come.

    But when Jeremiah calls saying Conrad has disappeared, Belly knows what she must do to make things right again. And it can only happen back at the beach house, the three of them together, the way things used to be. If this summer really and truly is the last summer, it should end the way it started--at Cousins Beach.


    11.Endless Summer

    Endless Summer (The Boys Next Door, #1-2)

    Two irresistible boys. One unforgettable summer. 

    Lori can’t wait for her summer at the lake. She loves wakeboarding and hanging with her friends—including the two hotties next door. With the Vader brothers, she's always been just one of the guys. Now that she’s turning sixteen, she wants to be seen as one of the girls, especially in the eyes of Sean, the older brother. But that’s not going to happen—not if the younger brother, Adam, can help it.

    Lori plans to make Sean jealous by spending time with Adam. Adam has plans of his own for Lori. As the air heats up, so does this love triangle. Will Lori’s romantic summer melt into one hot mess?

    12.Twenty Boy Summer

    Twenty Boy Summer

    เรื่องนี้เป็นเรื่องของแอนนาและเพื่อนสนิทของแอนนาชื่อว่า แฟรงกี้ ใน20วันที่ อ่าว zanzibar เป็นอะไรที่เฟอร์เฟคสุดๆเพราะพวกเธอจะได้พบชายหนุ่มทุกๆวันมันเป็นโอกาสดีที่แอนนาจะได้พบกับความโรแมนติกในฤดูร้อนครั้งแรกของเธอ แอนนามีความสุขกับการเล่นเกมชายหนุ่ม20คนนี้ แต่เธอไม่ได้บอกแฟรงกี้ว่าเธอมีความรักที่โรแมนติกมากกับพี่ชายของเธอ ก่อนเขาจะตายจากไปด้วยความโศกเศร้าและเธอพยายามทุกทางเพื่อที่จะให้เขากลับมา

    Tuesday, March 8, 2016

    7 years - Lukas Graham แปลเพลง



    Once I was seven years old, my momma told me,
    Go make yourself some friends or you'll be lonely.
    Once I was seven years old.

    ครั้งหนึ่งตอนที่ฉันอายุ 7 ปี แม่เคยบอกฉันว่า
    ออกไปหาเพื่อนบ้างนะไม่อย่างงั้นลูกจะเหงา
    ในตอนนั้นที่ฉันอายุ 7 ปี

    It was a big big world, but we thought we were bigger.
    Pushing each other to the limits, we won't learn them quicker.
    By eleven smoking herb and drinking burning liquor
    Never rich so we were out to make that steady figure

    มันคือโลกที่กว้างใหญ่, แต่พวกเรากลับคิดว่าเรายิ่งใหญ่กว่ามัน
    ผลักดันกันและกันไปจนถึงขีดจำกัด,แต่เราไม่ได้เรียนรู้มันเร็วขึ้น
    ตอนอายุ 11 ปี เราก็สูบกัญชาและดื่มเหล้าแล้ว
    เพราะไม่เคยรวยมาก่อนพวกเราเลยออกไปทำงานที่ได้เงินอย่างมั่นคง

    Once I was eleven years old, my daddy told me,
    Go get yourself a wife or you'll be lonely.
    Once I was eleven years old.

    ตอนฉันอายุ 11 ปี พ่อก็เคยบอกฉันว่า
    มีภรรยาได้แล้วนะไม่อย่างงั้นลูกจะเหงา
    ในตอนนั้นที่ฉันอายุ 11 ปี

    I always had that dream like my daddy before me
    So I started writing songs, I started writing stories
    Something about that glory, just always seemed to bore me,
    Cause only those I really love will ever really know me

    ฉันเคยมีความฝันเหมือนที่พ่อของฉันมีมาก่อน
    ดังนั้นฉันจึงเริ่มเขียนบทเพลงและเริ่มเขียนเรื่องราว
    เกี่ยวกับความสำเร็จที่มักจะทำให้ฉันเบื่อเสมอ
    เพราะมีเพียงแค่คนที่ฉันรักเท่านั้น จึงจะรู้จักฉันดี

    Once I was twenty years old, my story got told,
    Before the morning sun, when life was lonely.
    Once I was twenty years old.

    พอฉันอายุ 20 ปี เรื่องราวของฉันก็ถูกเล่าว่า
    ก่อนพระอาทิตย์จะมาเยือน ในตอนที่ชีวิตโดดเดี่ยว
    ตอนที่ฉันอายุ 20 ปี

    I only see my goals, I don't believe in failure.
    Cause I know the smallest voices, they can make it major.
    I got my boys with me at least those in favour,
    And if we don't see before I leave, I hope to see you later.

    ฉันมองเห็นเพียงเป้าหมายของฉันเอง,ฉันไม่เชื่อในความล้มเหลว
    เพราะฉันรู้ว่าเสียงที่เล็กที่สุด ก็สามาถทำให้มันยิ่งใหญ่ได้
    ฉันมี่เพื่อนๆอยู่กับฉัน อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานั้น
    และถ้าพวกเราจะไม่ได้เจอกัน และก่อนฉันจากไป ก็หวังว่าเราจะมาพบกันอีกนะ


    Once I was 20 years old, my story got told
    I was writing about everything, I saw before me
    Once I was 20 years old.

    พอฉันอายุ 20 ปี เรื่องราวของฉันก็ถูกเล่าว่า
    ฉันเขียนเกี่ยวกับทุกสิ่งที่ฉันได้พบเจอมา
    ตอนที่ฉันอายุ 20 ปี

    Soon we'll be 30 years old, our songs have been sold,
    We've traveled around the world and we're still rolling.
    Soon we'll be 30 years old.

    เร็วๆนี้พวกเราก็จะอายุ 30 ปีและเพลงของพวกเราก็ขายได้แล้ว
    พวกเราได้เดินทางรอบโลกและยังจะเดินทางต่อไป
    ในเร็วๆนี้ที่พวกเราอายุ 30 ปี

    I'm still learning about life
    My woman brought children for me
    So I can sing them all my songs
    And I can tell them stories
    Most of my boys are with me
    Some are still out seeking glory
    And some I had to leave behind

    ตอนนี้ฉันยังเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต
    ภรรยาของฉันได้คลอดลูกมาเพื่อฉัน
    เพื่อให้ฉันได้ร้องเพลงทุกเพลงของฉันให้พวกเขาฟัง
    และจะได้บอกเรื่องราวต่างๆแก่พวกเขา
    เพื่อนๆส่วนใหญ่ยังอยู่กับฉันนะ
    บางคนก็ยังคงมองหาความสำเร็จอยู่
    และบางคนฉันก็ได้เพียวทิ้งไว้ข้างหลัง


    My brother I'm still sorry
    เพื่อนของฉัน ฉันขอโทษนะ

    Remember life and then your life becomes a better one
    I made a man so happy when I wrote a letter once
    I hope my children come and visit, once or twice a month

    จดจำชีวิตนี้ไว้แล้วชีวิตของเธอจะดีขึ้นเอง
    ฉันทำให้พ่อดีใจครั้งหนึ่งตอนที่ฉันเขียนจดหมายถึงเขา
    ฉันหวังว่าลูกๆของฉันจะมาเยี่ยมเยียนกันบ้างนะ ซักเดือนละหนึ่งหรือสองครั้งก็ได้

    Soon I'll be 60 years old, will I think the world is cold?
    Or will I have a lot of children who can warm me
    Soon I'll be 60 years old
    Soon I'll be 60 years old, will I think the world is cold?
    Or will I have a lot of children who can hold me

    ฉันจะอายุ 60 ปีเร็วๆนี้แล้ว , ฉันยังจะคิดว่าโลกนี้เยือกเย็นอยู่มั้ย
    หรือว่าฉันจะมีเด็กๆมากมายที่สามารถทำให้ฉันอบอุ่นได้
    เดี๋ยวฉันก็จะออายุ 60 ปีแล้ว 
    ฉันจะอายุ 60 ปีเร็วๆนี้แล้ว , ฉันยังจะคิดว่าโลกนี้เยือกเย็นอยู่มั้ย
    หรือว่าฉันจะมีเด็กๆมากมายที่สามารถกอดฉันได้

    Once I was seven years old, my momma told me,
    Go make yourself some friends or you'll be lonely.
    Once I was seven years old.

    ครั้งหนึ่งตอนที่ฉันอายุ 7 ปี แม่เคยบอกฉันว่า
    ออกไปหาเพื่อนบ้างนะไม่อย่างงั้นลูกจะเหงา
    ในตอนนั้นที่ฉันอายุ 7 ปี

    แปลเพลง Honest - Justin bieber lyrics

      แปลเพลง Honest - Justin bieber lyrics Written, Edited & Directed by Cole Bennett Official “Honest” Lyrics  [Chorus: Justin Bieber] ...